การรักษาหลุมสิวจำเป็นต้องรักษาทุกชั้นผิวเพราะหลุมสิวมีสาเหตุจากการทำลายของผิวหนังในหลายระดับ การรักษาที่มีประสิทธิภาพจึงต้องใช้วิธีการที่เจาะจงกับชั้นผิวที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้

1. ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis)
- ลักษณะ: เป็นชั้นผิวด้านนอกสุด ประกอบด้วยเซลล์ผิวที่ตายแล้วและมีการผลัดเซลล์เป็นประจำ
- การรักษา:
- TCA (Trichloroacetic Acid): ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ทำให้เซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและลดเลือนรอยหลุมสิวในชั้นนี้

2. ชั้นหนังกำพร้าลึก (Dermis)
- ลักษณะ: อยู่ใต้ชั้นหนังกำพร้า ประกอบด้วยเส้นเลือด, ต่อมไขมัน, และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่มีคอลลาเจนและอิลาสติน
- การรักษา:
- Picosecond Laser: คลื่นเลเซอร์ที่มีพลังงานสูงจะกระตุ้นเซลล์ผิวหนังให้สร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวหนังเรียบเนียนขึ้น ช่วยลดความไม่เรียบของผิว เช่น รอยหลุมสิว รอยแผลเป็น และริ้วรอย นอกจากนี้ยังสามารถปรับปรุงสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดปัญหารอยด่างดำจากสิวหรือแสงแดดได้อีกด้วย โดยกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูของผิว ทำให้เซลล์ผิวใหม่สามารถเติบโตขึ้นแทนที่เซลล์เก่าที่เสียหาย
- Microneedling RF: การรักษาผิวที่รวมการใช้เข็มเล็กๆ เจาะลงไปในผิวหนังพร้อมกับการส่งพลังงานคลื่นวิทยุ (RF) เข้าไปในชั้นผิว โดยเข็มจะสร้างบาดแผลเล็กๆ กระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูของร่างกายและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ในชั้นผิว ขณะเดียวกัน พลังงานคลื่นวิทยุจะถูกส่งเข้าไปในเนื้อเยื่อเพื่อเพิ่มความร้อน ทำให้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้มากขึ้น เทคนิคนี้มีประโยชน์ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวกระชับและเรียบเนียน ลดรอยหลุมสิว รอยแผลเป็น และริ้วรอย นอกจากนี้ยังช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอและฟื้นฟูผิว โดยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและกระตุ้นการฟื้นฟูเซลล์ผิว แม้ว่าจะมีผลข้างเคียง เช่น อาการบวม แดง หรือระคายเคืองที่ผิวหนังหลังการรักษา ซึ่งมักจะหายไปในระยะเวลาไม่นาน
- Subcision: การรักษาหลุมสิวที่เน้นการตัดพังผืดที่ยึดฐานของหลุมสิว ซึ่งจะช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น โดยการทำให้เนื้อเยื่อที่ยึดติดกันคลายตัว ส่งผลให้หลุมสิวดูตื้นและเรียบขึ้น นอกจากนี้ เทคนิคนี้ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งสามารถช่วยในการฟื้นฟูผิวหนังและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความยั่งยืนและทำให้ผิวดูดีขึ้นในระยะยาว

3. ชั้นใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Tissue)
- ลักษณะ: เป็นชั้นที่อยู่ลึกสุด ประกอบด้วยไขมันและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
- การรักษา:
- Injectables (Dermal Filler and Collagen Biostimulator): การรักษาที่ช่วยปรับปรุงสภาพผิวโดยการฉีดสารเข้าไปในผิวหนัง โดยการฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มและสนับสนุนโครงสร้างของผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น และลดการมองเห็นของหลุมสิวและริ้วรอย ในขณะที่คอลลาเจนบิโอสเตมูเลเตอร์ทำหน้าที่กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในระยะยาว ซึ่งช่วยฟื้นฟูและปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิวหนัง ส่งผลให้ผิวมีความกระชับและดูอ่อนเยาว์มากขึ้น ทั้งสองวิธีนี้จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีในการรักษาหลุมสิวและปรับปรุงสภาพผิวโดยรวม
การรักษาที่ครอบคลุมทั้งสามชั้นผิวนี้ทำให้สามารถจัดการกับหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า โดยการใช้วิธีที่เหมาะสมในแต่ละชั้นจะช่วยฟื้นฟูและปรับปรุงสภาพผิวโดยรวมได้อย่างยั่งยืน